ประโยชน์ของการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ

ประโยชน์ของการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ

น้ำผึ้งแท้ธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำผึ้งดอกลำใยและน้ำผึ้งดอกสาบเสือจากประเทศไทย มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้เป็นมากกว่าเครื่องเทศในครัว แต่เป็นเซรั่มบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูงจากธรรมชาติ

ทีมงานสุวรรณฟาร์มจะพาคุณไปค้นพบว่าทำไมการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงทั่วโลก และเป็นความลับความงามที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาของฝากสุขภาพและความงาม หรือผู้ประกอบการที่ต้องการนำไปพัฒนาเป็นเมนูบริการสปาและคาเฟ่

ทำไมน้ำผึ้งถึงดีต่อผิวหน้า? วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม

ทำไมน้ำผึ้งถึงดีต่อผิวหน้า วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม

องค์ประกอบมหัศจรรย์ที่ผิวของคุณต้องการ

น้ำผึ้งแท้ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์มากกว่า 200 ชนิด ที่ทำงานร่วมกันเพื่อบำรุงผิว โดยสารสำคัญได้แก่ กลูโคสและฟรุกโทสที่ให้พลังงานแก่เซลล์ผิว, เอนไซม์ธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า, สารต้านอนุมูลอิสระที่ชะลอริ้วรอย และวิตามินบีรวมที่ซ่อมแซมผิวที่เสียหาย

คุณสมบัติ Humectant ตามธรรมชาติของน้ำผึ้งทำให้สามารถดูดความชื้นจากอากาศมายังผิว และล็อคความชุ่มชื้นไว้ได้นานกว่าครีมบำรุงทั่วไป สารต้านแบคทีเรียธรรมชาติจาก Hydrogen Peroxide และ pH ที่เป็นกรดอ่อน (3.2-4.5) ช่วยฆ่าเชื้อและรักษาสมดุลผิว

ที่สำคัญคือน้ำผึ้งมี AHA (Alpha Hydroxy Acid) ธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น โดยไม่ระคายเคืองเหมือนสารเคมี

ทำไมน้ำผึ้งไทยจึงพิเศษกว่า?

น้ำผึ้งดอกลำใยจากภาคเหนือของไทยมีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เพราะผึ้งเก็บน้ำหวานจากดอกลำใยที่เต็มไปด้วยสารอาหาร ทำให้เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง

น้ำผึ้งดอกสาบเสือมีสรรพคุณทางยาสูง ช่วยลดการอักเสบได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว ผิวมัน หรือผิวอักเสบ กลิ่นเผื่อพื้นผสมความหวาน ให้ประสบการณ์การบำรุงผิวที่ไม่เหมือนใคร

7 ประโยชน์เด่นของการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง

1. กำจัดสิวและป้องกันสิวกลับมา อำลาปัญหาผิวที่หลอกล่อ

1. กำจัดสิวและป้องกันสิวกลับมา อำลาปัญหาผิวที่หลอกล่อ

กลไกการรักษาสิวที่ได้ผลจริง

สิวเกิดจากแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ที่ทำให้รูขุมขนอักเสบ น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถฆ่าเชื้อ P. acnes ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เชื้อเกิดการดื้อยาเหมือนยาปฏิชีวนะ

การใช้น้ำผึ้งพอกหน้าเป็นประจำจะสร้างสภาพแวดล้อมที่แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ด้วย pH ที่เป็นกรดและคุณสมบัติ Antimicrobial จากเอนไซม์ Glucose Oxidase ที่ผลิต Hydrogen Peroxide ออกมาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการแดง บวม และเจ็บของสิว ทำให้สิวยุบเร็วขึ้นและไม่ทิ้งรอยดำหลังสิวหายเหมือนการใช้ยาสิวเคมี

วิธีใช้น้ำผึ้งรักษาสิวที่ได้ผลดีที่สุด

สำหรับสิวอักเสบ ให้จุดน้ำผึ้งบนตัวสิวโดยตรง ทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาทีหรือข้ามคืน ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำทุกวันจนสิวยุบ

สำหรับผิวที่มีสิวเยอะ ให้ทาน้ำผึ้งทั้งหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะช่วยลดการเกิดสิวใหม่อย่างเห็นได้ชัด

สำหรับป้องกันสิว แนะนำให้พอกหน้าน้ำผึ้งสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาสมดุลของผิวและป้องกันแบคทีเรียสะสม จะช่วยให้ผิวสะอาด ปลอดสิว แม้ในช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

2. เพิ่มความชุ่มชื้น Hydration ระดับ Spa ที่บ้านคุณ

ทดแทนน้ำเลี้ยงผิวที่สูญเสียไป

ผิวหน้าผลิตน้ำเลี้ยงผิว (Sebum) เพื่อปกป้องและบำรุงผิวตามธรรมชาติ แต่การล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่จะกำจัดน้ำเลี้ยงผิวนี้ออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้ง คัน หรือลอกเป็นขุย โดยเฉพาะในห้องแอร์หรือฤดูหนาว

น้ำผึ้งเข้ามาทำหน้าที่เหมือน “น้ำเลี้ยงผิวเทียม” ที่ดีกว่าครีมบำรุง เพราะโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับน้ำเลี้ยงผิวธรรมชาติ ทำให้ดูดซึมง่ายและไม่อุดตันรูขุมขน

คุณสมบัติ Humectant ของน้ำผึ้งทำให้สามารถดูดความชื้นจากอากาศมาสู่ผิว และสร้างชั้นป้องกันที่ล็อคความชุ่มชื้นไว้ได้นานถึง 8-12 ชั่วโมง ผิวจึงอิ่มน้ำและอวบอิ่มตลอดวัน

เทคนิคพอกน้ำผึ้งเพิ่มความชุ่มชื้น

หลังอาบน้ำ เช็ดหน้าให้หมาด (ไม่ต้องแห้งสนิท) ทาน้ำผึ้งบางๆ ทั่วหน้า นวดเบาๆ เป็นวงกลม ทิ้งไว้ 15-20 นาที หรือข้ามคืนถ้าไม่รู้สึกเหนียว

ถ้ารู้สึกเหนียวมาก ให้ล้างออกเบาๆ ด้วยน้ำอุ่น แล้วตบน้ำเย็นปิดรูขุมขน ไม่ต้องใช้ครีมบำรุงเพิ่ม เพราะน้ำผึ้งให้ความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว

สำหรับผิวแห้งมาก แนะนำให้ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์ (อัตราส่วน 2:1) จะให้ความชุ่มชื้นเข้มข้นยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับทาตอนกลางคืน

3. ต่อต้านริ้วรอยและชะลอวัย เซรั่มต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ

ต่อต้านริ้วรอยและชะลอวัย เซรั่มต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ

ทำไมผิวถึงเหี่ยวย่นและน้ำผึ้งช่วยได้อย่างไร?

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่น เริ่มมีริ้วรอยและรอยตีนกา ยิ่งโดนแสงแดด มลพิษ และความเครียด ผิวก็ยิ่งแก่เร็วขึ้น

น้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) หลากหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์ พอลีฟีนอล และวิตามินซี ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยและจุดด่างดำ

การใช้น้ำผึ้งพอกหน้าเป็นประจำจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวตึงกระชับ ลดรอยเหี่ยวย่น และชะลอการแก่ของผิวได้อย่างเห็นผล ผิวจะดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น

นอกจากนี้ เอนไซม์ในน้ำผึ้งยังช่วยซ่อมแซม DNA ของเซลล์ผิวที่เสียหายจากแสงแดด (Photoaging) ช่วยลดโอกาสเกิดริ้วรอยและฝ้ากระจากแสง UV

มาส์กน้ำผึ้งต้านริ้วรอย DIY

  • สูตรพื้นฐาน: ทาน้ำผึ้งแท้บนใบหน้าและลำคอ นวดเป็นวงกลมนาน 3-5 นาที ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออก ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
  • สูตรเข้มข้น: ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + กล้วยบดละเอียด 1/2 ผล + น้ำมันอะโวคาโด 1 ช้อนชา ทาทั้งหน้า ทิ้งไว้ 25-30 นาที ล้างออก
  • สูตรสำหรับริ้วรอยรอบตา: น้ำผึ้ง + วิตามินอี (บีบจากแคปซูล) ทาบริเวณรอบดวงตาเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างด้วยน้ำเย็น

4. ผลัดเซลล์ผิวและทำให้ผิวกระจ่างใส

กำจัดเซลล์ผิวเก่าโดยไม่ต้องขัด

ผิวหน้ามีการหลุดลอกของเซลล์ผิวเก่าทุกวัน แต่บางครั้งเซลล์เก่าสะสมมากเกินไป ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียน และแต่งหน้าไม่สวย การขัดผิวด้วยสครับเม็ดหยาบอาจทำให้ผิวบอบบาง

น้ำผึ้งมี AHA (Alpha Hydroxy Acid) และเอนไซม์ธรรมชาติที่ช่วยละลายเซลล์ผิวเก่า โดยไม่ต้องขัดจนระคายเคือง วิธีนี้เรียกว่า “Chemical Exfoliation” แบบอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

การผลัดเซลล์ผิวด้วยน้ำผึ้งจะทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นเป็นลำดับ รูขุมขนเล็กลง ครีมบำรุงซึมดีขึ้น และเมคอัพติดทนนานขึ้น ผิวจะดูมีชีวิตชีวาและสุขภาพดี

เทคนิคผลัดเซลล์ผิวด้วยน้ำผึ้ง

ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + ผงข้าวโอ๊ตป่น (หรือน้ำตาลทราย) 1 ช้อนชา ทาบนหน้าแล้วนวดเป็นวงกลมเบาๆ 2-3 นาที ทิ้งไว้อีก 10 นาที ล้างออก ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

หรือใช้น้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวสด (อัตราส่วน 2:1) สำหรับผิวหนา ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดจุดด่างดำ แต่ใช้ตอนกลางคืนเท่านั้น และต้องทาครีมกันแดดตอนกลางวันให้ดี

5. รักษารอยแผลเป็นและรอยดำ: Healing Power

จากแผลสิวสู่ผิวเรียบเนียน

รอยแผลเป็นจากสิวหรือรอยดำที่เกิดจากการอักเสบเป็นปัญหาที่หลายคนประสบ น้ำผึ้งช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และลดการสะสมของเม็ดสีเมลานิน ทำให้รอยแผลเป็นจางลงเร็วขึ้น

งานวิจัยพบว่าน้ำผึ้งช่วยส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ (Tissue Regeneration) และลดการเกิด Hyperpigmentation หลังอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของรอยดำจากสิว

การใช้น้ำผึ้งทาบนรอยแผลเป็นหรือรอยดำทุกคืนเป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ จะช่วยให้รอยจางลงอย่างเห็นผล โดยไม่ต้องใช้ครีมหรือเซรั่มราคาแพง

วิธีใช้น้ำผึ้งรักษารอยแผลเป็น

ทาน้ำผึ้งบนรอยแผลเป็นหรือรอยดำ นวดเบาๆ เป็นวงกลม 3-5 นาที ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างออกในตอนเช้า ทำทุกวันจนรอยจางลง

หรือผสมน้ำผึ้งกับขมิ้นชันผง (อัตราส่วน 3:1) ทำเป็นมาส์กทาบนรอยแผลเป็น ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออก ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ให้ผลดีเยี่ยมในการลดรอยดำ

6. ลดอาการแพ้และระคายเคือง: Gentle Care สำหรับผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้อย่างปลอดภัย

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีโรคผิวหนังอักเสบ (Dermatitis, Eczema, Rosacea) มักประสบปัญหาในการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพราะส่วนใหญ่มีสารเคมีที่ระคายเคือง

น้ำผึ้งแท้ธรรมชาติไม่มีสารเคมีหรือสารกันเสีย เป็น Hypoallergenic ตามธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ในคนส่วนใหญ่ (ยกเว้นผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้งจริงๆ ซึ่งพบน้อยกว่า 0.001%)

คุณสมบัติต้านการอักเสบของน้ำผึ้งช่วยลดอาการแดง คัน บวม และระคายเคือง ทำให้ผิวสงบ สบาย และฟื้นฟูเร็วขึ้น เหมาะสำหรับผิวที่บอบบางหรือกำลังมีปัญหา

วิธีใช้สำหรับผิวแพ้ง่าย

ทดสอบแพ้ก่อนใช้ ทาน้ำผึ้งนิดหน่อยที่ข้อพับแขน รอ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้จึงใช้กับหน้าได้

เริ่มใช้ครั้งแรกให้ทาบางๆ และทิ้งไว้เพียง 5-10 นาที หากผิวไม่มีปัญหา ค่อยเพิ่มเวลาเป็น 15-20 นาที

สำหรับผิวที่อักเสบมาก ให้ใช้น้ำผึ้งผสมน้ำเล็กน้อย (อัตราส่วน 3:1) เพื่อลดความเข้มข้น ทาบนผิวที่แดง คัน หรือระคายเคือง จะช่วยให้ผิวสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

7. ควบคุมความมัน สมดุลสำหรับผิวมัน

ผิวมันก็ใช้น้ำผึ้งได้โดยไม่มันเพิ่ม

หลายคนเข้าใจผิดว่าผิวมันไม่ควรใช้น้ำผึ้งเพราะกลัวมันเพิ่ม แต่ความจริงคือผิวมันมักเกิดจากผิวขาดน้ำ ทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันชดเชยมากเกินไป

น้ำผึ้งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่เพิ่มความมัน เพราะเป็น Water-Based Humectant ไม่ใช่สารมัน เมื่อผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ ก็จะหยุดผลิตน้ำมันส่วนเกิน ผิวจึงสมดุลขึ้น

นอกจากนี้ คุณสมบัติต้านแบคทีเรียและสมานแหล่งของน้ำผึ้งยังช่วยกระชับรูขุมขน ลดการอุดตัน และป้องกันสิวที่มักเกิดกับผิวมัน

เทคนิคใช้น้ำผึ้งสำหรับผิวมัน

ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาว 1 ช้อนชา + นมสดไม่หวาน 1 ช้อนโต๊ะ ทาบนหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

หรือผสมน้ำผึ้งกับดินสอพอง (Bentonite Clay) เพื่อดูดซับความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน แต่ยังคงความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเหมือนมาส์กดินสอพองอย่างเดียว

สูตรมาส์กน้ำผึ้ง DIY สำหรับปัญหาผิวแต่ละประเภท

สูตรมาส์กน้ำผึ้ง DIY สำหรับปัญหาผิวแต่ละประเภท

สำหรับผิวสิว/ผิวมัน: Honey Cinnamon Mask

  • ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + ผงอบเชย 1 ช้อนชา
  • วิธีทำ: ผสมน้ำผึ้งกับผงอบเชยจนเข้ากัน ทาบนใบหน้าที่ชุ่มชื้น (หลังล้างหน้า) ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • ประโยชน์: อบเชยมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบสูง เมื่อผสมกับน้ำผึ้งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิวและลดความมัน ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • คำเตือน: อบเชยอาจระคายเคืองผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบก่อนใช้ หากรู้สึกแสบมาก ให้ล้างออกทันที

สำหรับผิวแห้ง/ผิวหมองคล้ำ: Honey Avocado Mask

  • ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + อะโวคาโดสุกบด 1/4 ผล + น้ำมันโอลีฟ 1 ช้อนชา
  • วิธีทำ: บดอะโวคาโดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งและน้ำมันโอลีฟ คนจนเข้ากัน ทาทั้งหน้า ทิ้งไว้ 20-25 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • ประโยชน์: อะโวคาโดอุดมด้วยวิตามินอี และไขมันดีที่บำรุงผิวแห้ง น้ำมันโอลีฟช่วยล็อคความชุ่มชื้น ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้งจะทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้น

สำหรับผิวหมองคล้ำ/ผิวไม่เรียบ: Honey Turmeric Mask

  • ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + ผงขมิ้นชัน 1/2 ช้อนชา + นมสดหรือโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ
  • วิธีทำ: ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทาบนหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น (อาจต้องล้างหลายรอบถ้าติดเหลือง)
  • ประโยชน์: ขมิ้นชันมีสาร Curcumin ที่ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และทำให้ผิวกระจ่างใส ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • คำเตือน: ขมิ้นชันอาจทำให้ผิวเหลืองชั่วคราว แต่จะหายภายใน 1-2 ชั่วโมง ไม่ควรใช้ก่อนออกนอกบ้าน

สำหรับผิวริ้วรอย/ผิวแก่: Honey Banana Mask

  • ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + กล้วยสุกบด 1/2 ผล + น้ำมันวิตามินอี 3-4 หยด
  • วิธีทำ: บดกล้วยให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งและวิตามินอี คนจนเนียน ทาทั้งหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ 25-30 นาที ล้างออก
  • ประโยชน์: กล้วยมีวิตามินเอ วิตามินซี และโพแทสเซียมที่ช่วยบำรุงผิวแก่ วิตามินอีช่วยลดริ้วรอย ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งจะทำให้ผิวตึงกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น

สำหรับผิวทุกประเภท: Honey Oatmeal Mask

  • ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + ข้าวโอ๊ตป่น 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำอุ่นเล็กน้อย
  • วิธีทำ: ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำอุ่นให้นุ่ม เติมน้ำผึ้งคนให้เข้ากัน ทาบนหน้าพร้อมนวดเบาๆ 2-3 นาที ทิ้งไว้อีก 15 นาที ล้างออก
  • ประโยชน์: ข้าวโอ๊ตช่วยผลัดเซลล์ผิวอ่อนโยน ดูดซับความมันส่วนเกิน และลดการอักเสบ เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

วิธีใช้น้ำผึ้งพอกหน้าให้ได้ผลดีที่สุด

ขั้นตอนการพอกหน้าที่ถูกต้อง

  • ก่อนพอก: ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าหรือน้ำอุ่น เช็ดให้หมาด (ไม่ต้องแห้งสนิท) ผิวที่ชุ่มชื้นจะดูดซึมน้ำผึ้งได้ดีกว่า
  • การทาน้ำผึ้ง: ใช้นิ้วหรือแปรงทาทั่วหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณตาและริมฝีปาก (เว้นแต่ต้องการบำรุงริมฝีปากด้วย) ทาให้เป็นชั้นบางๆ สม่ำเสมอ
  • ทิ้งไว้: อย่างน้อย 15-20 นาทีสำหรับการบำรุงทั่วไป, 30-45 นาทีสำหรับรักษาสิวหรือรอยแผลเป็น, หรือข้ามคืนสำหรับผิวแห้งมาก
  • ล้างออก: ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าหลายครั้งจนน้ำผึ้งออกหมด แล้วล้างด้วยน้ำเย็นเบาๆ เพื่อปิดรูขุมขน เช็ดหน้าเบาๆ ด้วยผ้าสะอาด ไม่ต้องถูแรง
  • หลังล้าง: ไม่จำเป็นต้องทาครีมบำรุงเพิ่ม เพราะน้ำผึ้งให้ความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว แต่ถ้ารู้สึกแห้งเล็กน้อยอาจทาโลชั่นบางๆ ได้

ความถี่ในการพอกหน้า

  • ผิวธรรมดา: สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อบำรุงและรักษาสภาพผิว
  • ผิวสิว/ผิวมัน: สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือทุกวันถ้ามีสิวอักเสบมาก (จุดเฉพาะบนสิว)
  • ผิวแห้ง/ผิวแพ้ง่าย: สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เริ่มจากครั้งละ 10-15 นาที แล้วค่อยเพิ่มเป็น 20-30 นาที
  • ผิวแก่/ผิวริ้วรอย: สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทิ้งไว้นาน 25-30 นาที หรือข้ามคืน เพื่อให้สารต้านริ้วรอยซึมลึก
  • การป้องกัน: สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิว เพื่อรักษาสภาพผิวและป้องกันปัญหา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ใช้น้ำผึ้งทาหน้าทุกวันได้ไหม?

ได้ แต่แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก่อน หากผิวไม่มีปัญหาและรู้สึกดีจึงค่อยเพิ่มเป็นทุกวัน การใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวชินและลดประสิทธิภาพ

น้ำผึ้งทาหน้าแล้วมันเหนียวไหม? ล้างออกยากไหม?

น้ำผึ้งจะเหนียวนิดหน่อยในขณะทา แต่เมื่อดูดซึมลงผิวแล้วจะลดลง ล้างออกง่ายด้วยน้ำอุ่น ไม่ยากเหมือนน้ำมันหรือครีมเข้มข้น ล้าง 2-3 ครั้งก็สะอาดแล้ว

ควรทาน้ำผึ้งก่อนหรือหลังใช้เซรั่ม/ครีมบำรุง?

ทาน้ำผึ้งก่อนเซรั่มหรือครีม เพราะน้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มการดูดซึมของผลิตภัณฑ์บำรุงที่ทาทับ หรือใช้น้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องทาอะไรเพิ่มก็ได้

น้ำผึ้งช่วยลดรูขุมขนได้จริงไหม?

ได้ น้ำผึ้งช่วยกระชับรูขุมขนด้วยคุณสมบัติ Astringent อ่อนๆ และช่วยล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง แต่ต้องใช้สม่ำเสมออย่างน้อย 4-6 สัปดาห์

น้ำผึ้งที่ตกผลึกใช้ทาหน้าได้ไหม?

ได้ แต่อาจทายาก ควรนำไปอุ่นน้ำอุ่นๆ (ไม่เกิน 40°C) จนกลับมาเป็นของเหลว แล้วจึงใช้ทาหน้า น้ำผึ้งที่ตกผลึกแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ ไม่ได้เสียหรือเป็นอันตราย

ผิวมันควรใช้น้ำผึ้งหรือไม่? จะมันเพิ่มไหม?

ควรใช้ เพราะน้ำผึ้งไม่ใช่สารมัน แต่เป็น Humectant ที่เพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน ผิวที่ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอจะหยุดผลิตน้ำมันส่วนเกิน ผิวจึงสมดุลขึ้น

ใช้น้ำผึ้งแล้วผิวขาวขึ้นจริงไหม? ใช้นานแค่ไหน?

น้ำผึ้งช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ไม่ใช่ขาวขึ้นแบบสารฟอกสี แต่เป็นการเพิ่มความสว่างและความเรียบเนียนของผิว ใช้สม่ำเสมอ 4-8 สัปดาห์จะเห็นผลชัดเจน

ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง

฿250
฿160
฿85
สินค้าหมดแล้ว

น้ำผึ้งแท้ 100%

ไขผึ้ง ขนาด 1000 กก.

฿300