น้ำผึ้งชันโรง คือ? มีประโยชน์และคุณสมบัติอะไรบ้าง

ขึ้นชื่อว่าน้ำผึ้งแล้วนั้นขอบอกไว้เลยว่านอกจากจะมีประโยชน์และรสชาติที่หอมหวานแล้วนั้น ยังมีความหลากหลายของตัวน้ำผึ้งอีกด้วย แต่ในวันนี้ผมจะขอมาพูดถึงน้ำผึ้งที่ถูกเรียกว่า “น้ำผึ้งชันโรง” นั้นคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

น้ำผึ้งชันโรง คือ

น้ำผึ้งชันโรง คือ น้ำผึ้งที่ถูกผลิตขึ้นมาจากผึ้งจิ๋ว (Stingless Bee) เป็นผึ้งที่ถูกจัดอยู่ในจำพวกผึ้งที่ไม่เหล็กใน จะอาศัยอยู่ในโพรงธรรมชาติ โพรงไม้ โพรงใต้ติน หรือโพรงเทียมที่สร้างขึ้น โดยจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปแต่ละภูมิภาค เช่น ขี้สูด ติ้ง หรือขี้ตังนีเป็นต้น

นอกจากนี้เจ้าผึ้งจิ๋วหรือชันโรงจะเก็บเกสรดอกไม้มากกว่าเก็บน้ำหวาน โดยเฉลี้ยเกสร 80% น้ำหวาน20% ซึ่งต่างจากผึ้งชนิดอื่นที่จะเก็บน้ำหวานและเกสรเท่าๆกัน ทำให้น้ำหวานได้น้อยกว่าแต่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ได้มากกว่าผึ้งทั่วๆไป

ด้วยเหตุนี้ทำให้น้ำผึ้งชันโรงนั้นจะมีรสชาติที่หวานอมเปรี๊ยวรวมไปถึงรสขม และยิ่งหากเก็บน้ำผึ้งชนิดนี้ไว้นานก็จะทำให้หลงเหลือเพียงแค่รสเปรี๊ยวอมขมที่อาจจะหลงเหลือรสหวานไว้น้อย ทำให้บางครั้งอาจไม่เป็นที่นิยมในการนำไปใช้สำหรับใส่อาหารหรือปรุงรสเท่าไหร่

โดยสีของน้ำผึ้งชันโรงจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของดอกไม้ที่ผึ้งไปเก็บมา รวมทั้งยังจะมีสีที่ค่อนไปทางเข้มกว่าน้ำผึ้งขนิดอื่นๆ จากการที่ผึ้งเก็บเกสรมากกว่าน้ำหวานก็ทำให้อุดมไปด้วยคุณค่าจึงนิยมใช้สำหรับนำไปใช้สำหรับด้านการแพทย์มากกว่าปรุงอาหาร หรือนิยมรับประทานเพื่อช่วยในด้านสุขภาพมากกว่าที่จะเพียงแค่รับรสชาติหอมหวานของน้ำผึ้ง

ในส่วนของสรรพคุณของน้ำผึ้งชันโรงนั้นจะมีมากมายตั้งแต่ตัวน้ำผึ้งมีสารของฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่จะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ต้านเชื้อโรค ยับยั้งการเติบโตของเชื้อราและจุลินทรีย์ได้ รวมไปถึงยังช่วยสร้างภูมิคุ่มกันให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ทำให้ น้ำผึ้งชันโรงอาจจะมีราคาแพงมากกว่าน้ำผึ้งทั่วๆไปในระดับหนึ่ง

ซึ่งในประเทศไทยนั้นจะมีผึ้งชันโรงรวมแล้วประมาณ 34 ชนิดด้วยกัน แต่ละชนิดก็มักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดบริเวณ หากนำไปเลี้ยงในพื้นที่อื่นๆอาจตายได้ เพราะฉะนั้นหากต้องการที่จะเลี่ยงผึ้งชนิดนี้ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อนเสมอ

ประโยชน์ที่ได้รับจากน้ำผึ้งชันโรง

อย่างที่กล่าวไว้ถึงสรรพคุณของน้ำผึ้งชันโรงเอาไว้เบื้องต้นนั้นจะเห็นได้ว่าเจ้าตัวน้ำผึ้งชันโรงนั้นจะมีความต่างจากน้ำผึ้งทั่วไปอยู่บ้างทั้งในเรื่องของการเก็บเกี่ยวเกสรและรสชาติ ด้วยเหตุนี้อาจทำให้หลายคนสงสัยว่าแล้วน้ำผึ้งชันโรงจะมีประโยชน์บ้างนะ หาคำตอบด้านล่างนี้เลย

• มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
• มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อโรคแบททีเรีย ช่วยให้เมื่อใช้สมานแผลก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น
• มีประโยชน์ในด้านการบำรุงสมอง
• มีประโยชน์ในด้านการปรับสมดุลให้แก่ร่างกาย
• ลดอาการไอ เจ็บคอ ได้เป็นอย่างดี
• ลดอาการเหนื่อยล้า และฟื้นฟูสมรรถภาพทางด้านร่างกายได้
• ช่วยให้หลับง่ายขึ้น เหมาะกับคนนอนหลับยาก
• ช่วยเพิ่มคสวามชุ่มชื้นให้แก่ผิว และลดการอักเสบของผิวหนัง รวมถึงลดอาการระคายเคืองของผิวได้
• สามารถนำไปแปรรูปไปเป็นสินค้าต่างๆทางด้านสุขภาพและความงามอยู่บ่อยครั้ง

คุณสมบัติของผึ้งชันโรงที่ต่างจากผึ้งอื่นๆ

1. ตัวผึ้งชันโรงจะไม่มีเหล็กใน ป้องกันตัวด้วยการกัด
2. ผึ้งชันโรงตัวเล็ก ทำให้เส้นทางการบินใกล้กว่าผึ้งทั่วไป โดยมีระยะอยู่ที่ 300 เมตรนับจากรัง ทำให้ควบคุมการผสมเกสรดอกไม้ได้ง่ายกว่าผึ้งชนิดอื่น
3. ผึ้งชันโรงตอมดอกไม้ทุกชนิด ไม่จำกัดอยู่ที่ดอกไม้ที่ชอบเท่านั้น ทำให้มีโอกาสสูงที่จะตอมหรือผสมเกสรดอกไม้เดิมซ้ำหลายๆรอบ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพดีกว่าผึ้งทั่วไป
4. ผึ้งชันโรงจะเก็บเกสรมากถึง 80% และนำหวานเพียง 20% เท่านั้น
5. น้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าน้ำผึ้งทั่วๆไป
6. สรรพคุณของน้ำผึ้งชันโรงมีมากกวา่าน้ำผึ้งทั่วไป และราคาก็สูงกว่าด้วย
7. ผึ้งชันโรงเลี้ยงได้ง่าย สามารถเคลื่อนย้ายรังได้ รวมทั้งมักจะอยู่รังเดิมและจะไม่ค่อยเกิดเหตุที่ตัวผึ้งทิ้งรัง

ขั้นตอนพื้นฐานในการเลี้ยงผึ้งชันโรง

ศึกษาหาข้อมูล

เริ่มแรกให้ทำการศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงให้ดีเสียก่อน เพราะเราต้องเข้าใจถึงตัวผึ้งที่นำมาเลี้ยงนั้นพันธุ์อะไร ฃธรรมชาติของมันใช้ชีวิตอย่างไร เพราะหากเกิดการเลี้ยงโดยไม่ได้มีข้อมูลหรือศึกษามาอย่างไม่ถีถ้วนก็หากทำเกิดการผิดพลาดต่างๆได้ง่าย

ซึ่งหากสนใจสามารถอ่านข้อมูลคู่มือในการเลี้ยงผึ้งชันโรงได้ที่ http://www.thai-explore.net/

ตามหาผึ้งชันโรงที่อยากเลี้ยง

หลังจากได้เริ่มศึกษาและทำความเข้าใจเสร็จแล้ว ต่อมาให้เลือกหาสายพันธ์ผึ้งชันโรงที่เราต้องการจะเลี้ยง โดยทั่วประเทศแล้วผึ้งชันโรงนั้นจะมีทั้งหมดอยู่ 34 สายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่มือใหม่นิยมเลี้ยงจะเป็นผึ้งชันโรงชนิดที่ตายยากหน่อย เช่น พันธุ์ขนเงิน ที่มีอัตราการตายต่ำและราคาไม่สูงนัก โดยจะมีราคาในแต่ละรังอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาท สามารถหาซื้อได้ง่ายทั่วประเทศ ตัวรังที่นิยมหาด้วยการใช้เงินซื้อนั้นจะเป็นรังแบบสำเร็จรูป โดยภายในรังก็จะมีตัวผึ้งชันโรงและนางพญาให้เราไปขยายหรือเลี้ยงเพื่อสืบพันธุ์ต่อเอง

สถานที่ในการเลี้ยง

อันดับแรกนั้นต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนหรือชุมชน รวมทั้งต้องพื้นที่ที่ไม่ฝ่าฝืนเจ้าของสถานที่หรือในเขตหวงห้ามต่างๆ

โดยจุดที่ควรเลี้ยงนั้นต้องอยู่ในร่มและเป็นพื้นที่โล่งพอ ไม่ควรวางโพรงเทียมติดกัน รวมถึงบริเวณภายในช่วง 300 – 400 เมตรรอบรังต้องอุดมไปดอกไม้ชนิดต่างๆที่เราต้องการ นอกจากนี้อากาศในบริเวณรังต้องไม่ร้อนจนทำให้น้ำผึ้งหรือน้ำหวานที่ผึ้งเก็บนั้นเกิดการละลาย

ตรวจสอบรังอยู่เสมอ

การตรวจสอบรังชันโรงหรือเปิดฝารังดูจะช่วยให้แสงรอดผ่านเข้ารังบ่อยครั้ง ทำให้ผึ้งชันโรงนั้นคุ้นชินกับแสงรวมถึงช่วยให้ตัวผึ้งผ่อนคลายไม่เคลียดและยิ่งเหล่าผึ้งพบเห็นเราบ่อยครั้งจากการตรวจสอบรังก็จะทำให้คุ้นชินต่อมนุษย์ ส่งผลให้ไม่ดุร้ายเท่ากับผึ้งชันโรงหรือผึ้งอื่นๆที่อยู่ตามธรรมชาติ

นอกจากนี้เมื่อเราตรวจสอบรังอยู่เสมอจะทำให้ดูได้ว่ามีความผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่ ส่งผลให้สามารถแก้ไข ปกป้องรังผึ้งของเราได้ทันที

การย้ายรัง

สำหรับผึ้งชันโรงนั้นหากต้องการย้ายรังจำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงกลางคืนเพื่อที่จะรอให้ผึ้งเข้าไปอยู่ในรังให้หมดเสียก่อน โดยหากย้ายรังในระยะใกล้ประมาณ 300 – 500 เมตร นั้นก็สามารถย้ายแล้วเปิดฝารังได้ทันที แต่หากต้องการย้ายรังในระยะไกลนั้นควรปิดฝารังเอาไว้ 2-3 วันก่อน เพื่อที่จะทำให้ผึ้งชันโรงในรังนั้นหลงลืมตำแหน่งที่เก่า