ความแตกต่างของน้ำผึ้ง

ประโยชน์ทางการแพทย์ของน้ำผึ้งชนิดต่างๆ

ประโยชน์ทางการแพทย์ของน้ำผึ้ง นั้นตามหลักการแพทย์แผนไทยวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างน้ำผึ้ง ถือว่าเป็นสิ่งที่ใช้เป็นส่วนประกอบทางยาหรือทางการแพทย์แผนโบราณได้หลากหลายรูปแบบด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้ง อาทิเช่น ช่วยทำให้นอนหลับง่าย น้ำผึ้งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณได้ เป็นต้น

และด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งที่มีประโยชน์มากมายจึงมีการนำไปเป็นส่วนผสมของยาหรือผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆได้มากมาย แล้วน้ำผึ้งกับสรรพคุณและประโยชน์ในทางการแพทย์นั้นจะมีรายละเอียดอย่างไร

ทีมงานสุวรรณฟาร์มจะพาคุณไปเจาะลึกทุกมิติของน้ำผึ้ง ทั้งประโยชน์ทางการแพทย์ วิธีเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับผู้ที่สนใจหันมาดูแลสุขภาพไม่ควรพลาด

ประโยชน์ทางการแพทย์ของน้ำผึ้งชนิดต่าง
ประโยชน์ทางการแพทย์ของน้ำผึ้งชนิดต่าง

มารู้จักสรรพคุณ น้ำผึ้งกับประโยชน์ทางการแพทย์ของน้ำผึ้งชนิดต่างๆ

น้ำผึ้ง เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีรสชาติที่โดดเด่นเรื่องความหวาน หอม นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบซึ่งนอกจากรับประทานแล้วยังนำไปใช้กับวงการแพทย์ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบันเป็นยารักษาโรค รวมไปถึงการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตผลิตภัณฑ์ทางด้านความงามอย่างพวกเครื่องสำอาง เวชสำอาง ด้วย

สรรพคุณของน้ำผึ้งยอมรับกันว่าเป็น “ยาอายุวัฒนะ” และมีการนำน้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติ และน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยง ยกตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ถือว่าเป็นที่ได้รับความนิยมมาก ไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนี้

สรรพคุณทางการแพทย์ที่พิสูจน์แล้ว

สรรพคุณน้ำผึ้งทางการแพทย์ที่พิสูจน์แล้ว
  • แก้อาการนอนไม่หลับได้ (Initial insomnia) น้ำผึ้งมีกรดเดซิโนอิค ช่วยคลายเครียด ระงับประสาทอ่อนๆ ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
  • บำรุงดูแลผิวพรรณ ให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความแก่
  • ช่วยสมานและรักษาแผลได้ มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อรา ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • บำรุงระบบทางเดินอาหาร แก้ปัญหาเกี่ยวกับท้องไส้ กระตุ้นการย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสีย
  • มีสรรพคุณบำรุงปอด ช่วยให้ปอดแข็งแรงและชุ่มชื้น บรรเทาอาการไอแห้งและไอเรื้อรัง
  • ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แก้อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน เพิ่มพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
  • บำรุงสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ กระตุ้นสมองให้ตอบสนองดีขึ้น

สรรพคุณเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

  • ขับสารพิษออกจากร่างกาย (Detox) มีโพรไบโอติกส์และแลคโตบาซิลัส ช่วยทำความสะอาดลำไส้
  • บรรเทาอาการปวดต่างๆ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ บรรเทาความเจ็บปวด
  • บำรุงเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี มีธาตุเหล็กช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีกลูโคสตามธรรมชาติช่วยระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น

น้ำผึ้งแต่ละชนิด แตกต่างกันอย่างไร?

น้ำผึ้งแต่ละชนิด แตกต่างกันอย่างไร

การเลือกน้ำผึ้งให้เหมาะกับความต้องการเป็นเรื่องสำคัญ ทีมงานสุวรรณฟาร์มจะพาคุณรู้จักน้ำผึ้งแต่ละชนิดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

น้ำผึ้งดอกลำไย

น้ำผึ้งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย มีสีทองอมเหลืองใส กลิ่นหอมของดอกลำไยชัดเจน รสชาติหวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับ การบำรุงร่างกาย เพิ่มพลังงาน บำรุงสมอง และใช้ทำเครื่องดื่มหรือขนมได้ง่าย

เก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ของทุกปี ถือว่าเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีและราคาเหมาะสม

น้ำผึ้งดอกสาบเสือ (น้ำผึ้งดอกไม้ป่า)

น้ำผึ้งที่ได้จากดอกไม้หลากหลายชนิดในป่าธรรมชาติ มีสีเข้มกว่าน้ำผึ้งดอกลำไย รสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมซับซ้อน มีแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่น

เหมาะสำหรับ การรักษาแผล บำรุงผิวพรรณ แก้ไอ บรรเทาอาการอักเสบ ผู้ที่ต้องการสรรพคุณทางยาเข้มข้น

น้ำผึ้งเดือน 5 คืออะไร? ทำไมถึงมีค่า?

น้ำผึ้งเดือน 5 คือน้ำผึ้งที่เก็บได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคม – เมษายน (นับตามปฏิทินจันทรคติของไทย) ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศแห้งแล้งที่สุด ความชื้นในอากาศต่ำมาก

ทำไมน้ำผึ้งเดือน 5 จึงพิเศษ?

  • มีความเข้มข้นสูง ไม่มีน้ำมาเจือปน
  • รสชาติหวานหอมกลมกล่อม
  • มีคุณภาพเป็นเยี่ยม เหมือนยาสมุนไพร
  • เก็บได้จากดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่บานพร้อมกันในฤดูนี้

นอกจากนี้น้ำผึ้งเดือน 5 จึงถือว่ามีคุณค่าทางยาสูงที่สุด และเป็นที่ต้องการของผู้รักสุขภาพครับ

น้ำผึ้งคือของฝากสุขภาพที่ดีที่สุดจากเมืองไทย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาของฝากที่มากกว่าแค่ของที่ระลึก น้ำผึ้งไทยถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความหมาย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมน้ำผึ้งจึงเป็นของฝากที่สมบูรณ์แบบ

1. ของขวัญแทนความห่วงใย มอบสุขภาพที่ดี

การมอบน้ำผึ้งเปรียบเสมือนการมอบสุขภาพและความปรารถนาดี เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ การเลือกน้ำผึ้งเป็นของฝากจึงแสดงถึงความใส่ใจในสุขภาพของผู้รับได้อย่างลึกซึ้ง และยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

2. รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากความหลากหลายของดอกไม้ไทย

เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของน้ำผึ้งไทยคือรสชาติที่หลากหลาย ซึ่งเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้นานาพันธุ์ในประเทศ ทำให้คุณสามารถเลือกน้ำผึ้งที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้งดอกลำไยที่หอมหวาน หรือน้ำผึ้งดอกไม้ป่าที่ซับซ้อน ถือเป็นของฝากคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับต่างประเทศ

3. ของฝากที่ใช้งานได้จริงและเก็บได้นาน

น้ำผึ้งแท้มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานมากโดยไม่เน่าเสีย ทำให้ผู้รับไม่ต้องรีบใช้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปผสมเครื่องดื่ม, ปรุงอาหาร, หรือใช้เพื่อบำรุงสุขภาพ ซึ่งจะทำให้พวกเขานึกถึงคุณทุกครั้งที่ใช้งาน

คู่มือเลือกขนาดน้ำผึ้งให้เหมาะกับผู้รับ

เพื่อให้ของฝากของคุณน่าประทับใจที่สุด การเลือกขนาดให้เหมาะสมกับผู้รับและโอกาสก็เป็นสิ่งสำคัญ

  • สำหรับเพื่อนร่วมงานหรือเป็นของฝากจำนวนมาก (ขนาด 250-300 กรัม)
    ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย และมีราคาที่เป็นมิตร เหมาะสำหรับเป็นของฝากที่แสดงถึงน้ำใจโดยไม่สร้างภาระให้ผู้รับ
  • สำหรับเพื่อนสนิทและครอบครัว (ขนาด 500 กรัม – 1 กิโลกรัม)
    เป็นขนาดที่คุ้มค่าและใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับมอบให้กับคนใกล้ชิดที่คุณอยากให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีและได้ใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งอย่างเต็มที่
  • สำหรับโอกาสพิเศษ (แพ็คเกจของขวัญ)
    หากต้องการสร้างความประทับใจสูงสุด ควรเลือกน้ำผึ้งที่บรรจุในกล่องหรือแพ็คเกจที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ซึ่งจะช่วยยกระดับของฝากธรรมดาให้กลายเป็นของขวัญชิ้นพิเศษได้ทันที

คุณค่าทางด้านโภชนาการของน้ำผึ้ง

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่านอกจากประโยชน์แล้ว คุณค่าในทางโภชนาการของผึ้งมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลย

คุณค่าในด้านโภชนาการต่อน้ำผึ้งในปริมาณ 100 กรัม มีดังนี้

  • ให้พลังงานทั้งหมดต่อ 100 กรัม 304 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 82.4 กรัม โปรตีน 0.3 กรัม และไขมัน 0 %
  • น้ำผึ้งมีวิตามินบี 1 0.038 มิลลิกรัม 3% ,วิตามินบี 3 0.121 มิลลิกรัม 1% ,วิตามินบี 5 0.068 มิลลิกรัม 1% ,วิตามินบี 6 0.024 มิลลิกรัม 2% และ วิตามินบี 9 2 ไมโครกรัม 1%
  • มีวิตามินซี 0.5 มิลลิกรัม 1%
  • น้ำตาลในน้ำผึ้งมีปริมาณ 82.12 กรัม
  • ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1% ,ธาตุเหล็ก 0.42 มิลลิกรัม 3% ,ธาตุแมกนีเซียม 2 มิลลิกรัม 1% ,ธาตุฟอสฟอรัส 4 มิลลิกรัม 1% ,มีโพแทสเซียม 52 มิลลิกรัม 1% ,ธาตุโซเดียม 4 มิลลิกรัม 0% และแร่ธาตุสังกะสี 0.22 มิลลิกรัม 2%
  • มีปริมาณส่วนผสมที่เป็นน้ำจำนวน 17.10 กรัม
  • เส้นใยเป็นส่วนผสม 0.2 %

ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานน้ำผึ้ง

ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานน้ำผึ้ง

ใช่ว่าการบริโภคน้ำผึ้งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายเพียงอย่างเดียว เฉกเช่นอาหารทั่วไปหากมีการรับประทานในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ให้ประโยชน์ต่อคุณค่าทางโภชนาการอย่างที่มันควรจะเป็นหรือต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการ

บางครั้งอาจจะส่งผลอันตรายด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทใดก็ตามควรรับประทานแต่พอดี ข้อควรระวังเกี่ยวกับการบริโภคน้ำผึ้งที่ทีมงานสุวรรณฟาร์มนำมาฝากกันจะมีอะไรบ้าง ดังนี้

กลุ่มที่ต้องระวังหรือหลีกเลี่ยง

  • ผู้ที่มีน้ำเหลืองเสีย ไม่ควรรับประทานน้ำผึ้ง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
  • คนที่มีอาการภูมิแพ้ โดยเฉพาะแพ้ละอองเกสรดอกไม้ อาจทำให้เกิดอาการแพ้กำเริบรุนแรงได้
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ห้ามรับประทานอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เด็กท้องผูก และเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคหรือสารพิษบอทูลิซึม
  • หญิงมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานน้ำผึ้งจำนวนมาก
  • ผู้ป่วยเบาหวาน ต้องควบคุมปริมาณการรับประทาน เพราะน้ำผึ้งมีน้ำตาลสูง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
  • คนที่มีสภาวะผิดปกติ อย่างผู้ที่มีอาการตาเหลืองและตัวเหลือง (ตับอักเสบ โรคตับ)

ปริมาณการรับประทานที่เหมาะสม

  • ผู้ใหญ่: ไม่ควรเกิน 50 กรัมต่อวัน (ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ)
  • เด็กอายุ 2-12 ปี: ไม่ควรเกิน 1-2 ช้อนชาต่อวัน
  • ผู้สูงอายุ: เริ่มจากปริมาณน้อย สังเกตอาการก่อน

ข้อควรระวังอื่นๆ

  • ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวบ่อย ควรหลีกเลี่ยง
  • ผู้ที่อาเจียนบ่อย หรืออยู่ในภาวะอาหารไม่ย่อย ไม่ควรรับประทาน
  • การรับประทานน้ำผึ้งในปริมาณที่มากเกินกำหนดอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูง น้ำหนักเพิ่ม
  • ควรเลือกซื้อน้ำผึ้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพราะอาจได้มาจากดอกไม้ที่มีพิษ

สรุปเกี่ยวกับ น้ำผึ้งกับประโยชน์ทางการแพทย์ ได้ว่า

น้ำผึ้ง เป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ และจากแหล่งน้ำหวานอื่น ๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ และผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและทางกายภาพบางประการ แล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง

น้ำผึ้งเกิดจากการที่ผึ้งนำน้ำจากเกสรดอกไม้ที่เป็นน้ำหวานจากธรรมชาติมา แล้วใช้กรด Enzyme ในห้องผึ้งเปลี่ยนแปลงมาเป็นน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้น ๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่

เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ จึงมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยง ส่วนน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีการเติมน้ำหวานจากน้ำตาล และเกสรเทียมซึ่งทำให้คุณค่าลดน้อยลงไป

ทำให้น้ำผึ้งมีประโยชน์ต่างๆมากมาย เช่น

  • น้ำผึ้งมีสรรพคุณทางการแพทย์มากมาย ทั้งบำรุงสุขภาพและรักษาโรค
  • การเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูลักษณะและแหล่งที่มา
  • น้ำผึ้งเหมาะเป็นของฝากสุขภาพที่มีคุณค่า
  • ผู้ประกอบการสามารถนำน้ำผึ้งไปสร้างเมนูที่ขายดีได้
  • มีข้อควรระวังในการบริโภค โดยเฉพาะเด็กเล็กและกลุ่มเสี่ยง
  • เก็บรักษาอย่างถูกวิธีจะทำให้น้ำผึ้งคงคุณภาพนาน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

น้ำผึ้งแท้กับน้ำผึ้งปลอมต่างกันอย่างไร?

น้ำผึ้งแท้จะข้นหนืด ใส ไม่มีฟอง มีกลิ่นหอมของดอกไม้ หยดลงน้ำจะจมเป็นก้อน ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะเหลวกว่า มีฟอง หยดลงน้ำจะกระจายทันที

น้ำผึ้งตกผลึกแปลว่าปลอมใช่ไหม?

ไม่ใช่! น้ำผึ้งแท้หลายชนิดจะตกผลึกตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในอากาศเย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สามารถนำไปอุ่นน้ำอุ่นก็จะกลับมาเป็นของเหลวได้

ควรดื่มน้ำผึ้งตอนไหนดีที่สุด?

ตอนเช้าหลังตื่นนอน (ผสมน้ำอุ่นและมะนาว) ช่วย Detox และก่อนนอน (ผสมน้ำอุ่น) ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

เด็กอายุเท่าไหร่ถึงจะกินน้ำผึ้งได้?

เด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปถึงจะกินน้ำผึ้งได้ ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีรับประทานน้ำผึ้งอย่างเด็ดขาด

ผู้ป่วยเบาหวานกินน้ำผึ้งได้ไหม?

กินได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณให้น้อย และนับเป็นคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อน

น้ำผึ้งช่วยลดน้ำหนักจริงหรือ?

น้ำผึ้งช่วยเพิ่มการเผาผลาญและลดความอยากหวาน แต่ต้องควบคุมปริมาณ เพราะน้ำผึ้งก็มีแคลอรี่สูงเช่นกัน ควรใช้แทนน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม

ทาน้ำผึ้งบนใบหน้าทุกวันได้ไหม?

ได้ แต่ควรทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะเหมาะสมกว่า และต้องล้างออกให้สะอาด ไม่ควรทิ้งค้างคืน

น้ำผึ้งเก็บในตู้เย็นได้ไหม?

เก็บได้ แต่ไม่จำเป็น เพราะน้ำผึ้งจะตกผลึกง่ายขึ้นในอุณหภูมิต่ำ ควรเก็บที่อุณหภูมิห้องในที่ร่ม เย็น

ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง

฿250
฿160
฿85
สินค้าหมดแล้ว
สินค้าหมดแล้ว
สินค้าหมดแล้ว
สินค้าหมดแล้ว

น้ำผึ้งแท้ 100%

ไขผึ้ง ขนาด 1000 กก.

฿300